All Story From Blog

การประมาณราคา/Model Based Estimatingโดยรับเหมาก่อสร้างโรงงาน

การประมาณราคา/Model Based Estimatingโดยรับเหมาก่อสร้างโรงงาน

ดังที่รับสั่งมาแล้วนั้นการประมาณราคาด้วยทำนองการของการสร้างโมเดลอาคารเป็น 3 มิตินี้ ทำให้การประมาณราคาด้วย Model Based นี้ต้องใช้ประสิทธิภาพของโปรแกรม CAD มากในการโมเดลรูปแบบและปริมาตรของตึก ซึ่งเทคโนโลยีการจำลองอาคาร 3 มิติเสมือนจริงนี้ เรียกว่า BIM – Building Information Modeling ซึ่งโปรแกรม CAD แต่ละค่าย ก็จะรองรับการโมเดลโรงได้ลำบากลำบนง่ายสลายต่างกันคลาไคล หากใช้โปรแกรม CAD ที่ง่ายในงานจำลองโมเดลอาคารพร้อมด้วยส่วนต่อเรืออาคารหาได้ง่ายและเสมือนจริงเท่าไร ก็จะช่วยให้นักตวงราคาทำงานฉลองประมาณราคาได้คล่องขึ้นเท่านั้น เช่น โครงสร้างโค้ง เอียง มีการเจาะรู หรือ บากคาน ได้

การกะราคาก่อสร้างสร้างแบบที่ใช้การวัดระยะจากแบบพิมพ์เขียวซึ่งที่เรียกว่าแบบ PaperBased Estimating นั้นเป็นการทำงานโดยอาศัยการวัดระยะ และโควตานับส่วนแบ่ง จากแบบก่อก่อสร้าง เพื่อบวกลบคูณหารหาโควตา ขนาด ของวัสดุและแรงงานที่จะใช้ ซึ่งวิธีการประมาณราคาจุดสร้างด้วยวิธี Paper Based นี้ ดำรงฐานะวิธีที่ง่ายและสะดวกที่สุด เพราะนักประเมินค่าราคา ทำงานโดยการวัดระยะด้วยไม้สเกวมาตราส่วน (Scale) และนับจำนวนวัสดุที่ใช้จากระยะจากแบบก่อสร้าง ซึ่งเป็นกระดาษพิมพ์เขียว แล้วค่อยมาคำนวณปริมาณ หรือ ปริมาตร วัสดุที่ใช้ เพื่อเครื่องคิดคณิตหรือโปรแกรมตารางคำนวณ (Spread Sheet) หรือ โปรแกรมประมาณราคา (Estimating Application) ที่นำมาช่วยเหลือทำงานนั้น ก็ยังอาศัยการนับ หรือ วัดระยะด้วยมนุษย์เองอยู่ดี เพียงแต่ว่าโปรแกรมนี้ช่วยให้คำนวณและจัดเรียงข้อมูลเครื่องมือได้ง่ายเป็นระเบียบ และสามารถนำข้อมูลไปใช้งานได้มากกว่าการใช้โปรแกรมตารางคำนวณแต่การคำนวณปริมาณวัสดุด้วยการนับจำนวน และวัดระยะจากพิมพเขียวแบบเดิมนั้น มีโอกาสผิดพลาดคลาดเคลื่อนได้มาก และผู้รับว่าก่อสร้างเองจะมาต้องเสียเวลา มาประมาณราคาซ้ำซ้อนกันอีกหลายๆครั้ง ตามวัตถุประสงค์ที่ต้องงานนำไปใช้งาน เช่น วางแผนการงานก่อสร้าง(Project Planning) การเปรี้ยงซื้อจัดจ้าง (Procurement) เป็นต้น ทำให้ผู้รับเหมาก่อสร้างนั้นเสียโอกาสในการชนะการประมูล ไม่มีข้อมูลที่แท้จริง ทำให้ยากในการคุ้มครองจัดการขณะลงมือก่อสร้าง
         

สมัยนี้คอมพิวเตอร์ตรงนั้นมีการพัฒนาการจรจากเดิมมาก ทั้งส่วนของฮาร์ดแวร์ ซอฟท์แวร์ ทำให้มีการพัฒนาจากโปรแกรม CAD (Computer-Aided Design / Drafting)  จากเดิมใช้งานหลักคือ การเขียนแบบเป็น 2 มิติ มาทำการจำลองอาคารทั้งหลังเป็น 3 มิติ เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับการออกแบบอาคารด้วย 3 มิติ  โดยเฉพาะโปรแกรมออกด้านสถาปัตยกรรมประจุบันนั้น รอบรู้สร้างรูปทรงอาคารและชิ้นส่วนอาคารได้เสมือนวัสดุจริง การเพิ่มมิติเข้าไปจากเดิมที่เป็น 3 มิติ ด้านเวลา หรือ การเข้าประจำที่แผนงาน มักจะถูกเรียกว่า 4D และการเพิ่มมิติเรื่องต้นทุน หรือ โดยประมาณราคานี้อีกจะเรียกรวมกันว่า 5D Construction


การประมาณสนนราคาด้วยวิธี Model Based Estimating นี้ทั้งเป็นการจัดหรือคำนวณความจุ ปริมาณจากโมเดลอาคาร 3 มิติจากสมองกล ซึ่งผมเองได้ติดตามเทคโนโลยีด้านนี้มาตลอดเวลา 3 ปี ทั้ง ดูงาน และร่วมทำ workshop ในต่างประเทศ พอจักสรุปได้ดังนี้


1.Vico Software Constructor™
   
โดยมีชื่อเดิมคือGraphisoft Virtual Constructor ซึ่งชื่อใหม่คือ VICO ซึ่งเป็นคำย่อมาจาก Virtual Constructor นั้นเองโดย Vico Software เป็นโปรแกรมแรกของมนุษยโลกในการก้าวเข้ามาสู่โลกการก่อสร้าง 5D ซึ่งเริ่มพัฒนาประมาณปี พศ. 2548 โดยอาศัย Engine ของโปรแกรม Archicad เป็นตัวทำงานด้าน CAD และพัฒนาโปรแกรมเพิ่ม เพื่อให้ทำงานได้ครบกบิล ด้วยหลักการ Model Based Estimating มาช่วยประมาณค่าและวางแผนการก่อสร้าง

   
โดยอาศัยหลักงานรังสรรค์ฐานข้อมูลเครื่องมือก่อสร้างทั้งค่าพลังค่าสิ่งของในโปรแกรม Estimating และ นฤมิตโมเดลอาคารในโปรแกรม Constructor แล้วให้ทำการเชื่อมเกี่ยวเนื่องกัน โปรแกรม Constructor จะทำการหากชิ้นส่วนโครงสร้างตามที่ระบุตอนสร้างสรรค์โมเดล เพียง คาน เสา พื้น บันได้ ชั้น 1 ชั้น 2 ชั้น 3  โดยเฉพาะและชั้นสามารถกำหนดพื้นที่ทำงานรื่นเริง เป็น Phase หรือ Zone ได้ตามต้องการ โปรแกรม Estimating จะทำการคำนวณโควตาวัสดุและแรงการที่ใช้ในแต่ละชิ้นส่วนสรรพสิ่งโครงการให้อัตโนมัติ หากมีการเปลี่ยนแปลงขนาดโมเดล เช่น เล็ก หรือ ใหญ่ ขึ้น นักใกล้เคียงราคาจะสั่งให้โปรแกรมเริ่มคำนวณใหม่ ซึ่งจะทำให้โปรแกรมคำนวณปริมาตรของวัสดุที่ใช้จากโมเดลอัตโนมัติ นักประมาณราคาอาจจะกำหนดวัสดุที่ใช้แห่งโมเดลงานพิธีสถาปัตย์ เช่น พื้น ผนัง ได้เสมือนจริง เช่น ผนัง อาจเป็น ไม้ กระเบื้อง อิฐ ประกอบกันได้

ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่รับเหมาก่อสร้างโรงงาน

Continue Reading »


0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น